การหาคู่ในยุคดิจิทัล ยุคแห่งเทคโนโลยี


0

ในยุคดิจิทัล แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และทวิตเตอร์ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของเรา ส่งผลอย่างมากต่อวิธีที่เราปฏิสัมพันธ์ สื่อสาร และแม้แต่การหาคู่ครอง บทความนี้จะสำรวจบทบาทหลากหลายมิติของโซเชียลมีเดียในการหาคู่สมัยใหม่ โดยอ้างอิงจากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Cyberpsychology, Behavior, and Social Networking และแหล่งข้อมูลวิชาการอื่นๆ

1. การสร้างความสัมพันธ์และความประทับใจแรกเริ่ม

โซเชียลมีเดียได้กลายเป็นพื้นที่สาธารณะที่คนนิยมใช้เริ่มต้นความสัมพันธ์ทางรัก:

  • จากการศึกษาในปี 2019 พบว่า 39% ของผู้ตอบแบบสอบถามเคยใช้โซเชียลมีเดียในการเริ่มต้นติดต่อหาคู่
  • โดยเฉพาะอินสตาแกรมที่กลายเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับการจีบกัน ผลสำรวจในปี 2020 เผยว่า 53% ของคน Gen Z และ Millennials มองว่าอินสตาแกรมเป็นแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดสำหรับการเกี้ยวพาราสี
  • นอกจากนี้ ผลสำรวจในปี 2021 พบว่า 48% ของคนอายุ 18-29 ปี เคยใช้โซเชียลมีเดียเพื่อตรวจสอบคนที่เคยเดทหรือมีความสัมพันธ์ด้วยในอดีต

แพลตฟอร์มเหล่านี้ยังเป็นแหล่งสร้างความประทับใจแรกด้วย:

  • งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียในปี 2018 แสดงให้เห็นว่า 65% ของคนเช็คโปรไฟล์โซเชียลมีเดียของคู่เดทที่อาจเป็นไปได้ก่อนจะพบกันตัวเป็นๆ
  • การศึกษาเดียวกันยังพบว่า 42% ของคนเคยปฏิเสธคู่เดทที่อาจเป็นไปได้ โดยพิจารณาจากการปรากฏตัวบนโซเชียลมีเดียเพียงอย่างเดียว
  • ในปี 2020 มีการศึกษาพบว่า 93% ของคนเคยค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับคู่รักที่อาจเป็นไปได้ทางออนไลน์

2. การพัฒนาความสัมพันธ์และการรักษาความสัมพันธ์

โซเชียลมีเดียมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและรักษาความสัมพันธ์:

  • การศึกษาในปี 2021 พบว่าคู่รักที่โพสต์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของตนบนโซเชียลมีเดีย รายงานว่ามีระดับความพึงพอใจในความสัมพันธ์สูงกว่า
  • อย่างไรก็ตาม การศึกษาเดียวกันยังชี้ให้เห็นว่าการใช้โซเชียลมีเดียมากเกินไปอาจนำไปสู่การลดลงของความใกล้ชิดสนิทสนม คู่รักที่ใช้เวลากับโซเชียลมีเดียมากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน รายงานว่ามีความพึงพอใจในความสัมพันธ์ต่ำกว่าถึง 23% เมื่อเทียบกับคู่ที่จำกัดการใช้งาน
  • จากการศึกษาในปี 2019 พบว่า 79% ของผู้เข้าร่วมรายงานว่าโซเชียลมีเดียส่งผลดีต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา

3. การเปิดเผยความสัมพันธ์ในที่สาธารณะ

แนวคิดเรื่อง "ความสัมพันธ์เป็นทางการบนเฟซบุ๊ก" ได้กลายเป็นหมุดหมายสำคัญในความสัมพันธ์หลายคู่:

  • การศึกษาในปี 2018 พบว่า 63% ของคู่รักมองว่าการประกาศสถานะความสัมพันธ์บนเฟซบุ๊กเป็นก้าวสำคัญ
  • การศึกษาเดียวกันยังเผยว่าคู่รักที่ประกาศความสัมพันธ์เป็นทางการบนเฟซบุ๊ก รายงานระดับความผูกพันสูงกว่าถึง 37% เมื่อเทียบกับคู่ที่ไม่ได้ประกาศ
  • ผลสำรวจในปี 2020 พบว่า 70% ของคู่รักแชร์ข่าวการหมั้นหมายบนโซเชียลมีเดียภายใน 24 ชั่วโมงแรก

4. ความหึงหวงและการเฝ้าระวัง

โซเชียลมีเดียได้นำมิติใหม่ของความหึงหวงและการสอดส่องเข้ามาในความสัมพันธ์:

  • การศึกษาในปี 2020 พบว่า 60% ของผู้เข้าร่วมยอมรับว่าใช้โซเชียลมีเดียเพื่อตรวจสอบกิจกรรมของคู่ครอง
  • การศึกษาเดียวกันยังเผยว่าคนที่มักสอดส่องคู่ครองบนโซเชียลมีเดียบ่อยๆ รายงานว่ามีระดับความไม่มั่นคงในความสัมพันธ์สูงกว่าถึง 28%
  • จากการศึกษาในปี 2019 พบว่า 34% ของผู้เข้าร่วมรายงานว่ารู้สึกหึงหวงเนื่องจากกิจกรรมบนโซเชียลมีเดียของคู่ครอง

5. ความคาดหวังและการสร้างภาพในอุดมคติ

สื่อสังคมออนไลน์สามารถสร้างความคาดหวังที่ไม่สมจริงในความสัมพันธ์:

  • การศึกษาในวารสาร Body Image ปี 2019 พบว่าการเปิดรับโพสต์ที่ถูกคัดสรรมาอย่างพิถีพิถันบน Instagram ทำให้ความไม่พอใจในรูปร่างของผู้เข้าร่วมเพิ่มขึ้น 31% และความไม่พอใจในความสัมพันธ์เพิ่มขึ้น 25%
  • งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Cyberpsychology, Behavior, and Social Networking (2021) แสดงให้เห็นว่าคนที่ชอบเปรียบเทียบความสัมพันธ์ของตัวเองกับที่เห็นในสื่อสังคมออนไลน์บ่อยๆ มีความพึงพอใจในความสัมพันธ์ต่ำลงถึง 42%
  • การศึกษาในปี 2020 ในวารสาร Journal of Social and Personal Relationships พบว่า 67% ของผู้เข้าร่วมรู้สึกกดดันที่จะต้องนำเสนอภาพความสัมพันธ์ในอุดมคติบนสื่อสังคมออนไลน์

6. การเลิกราและการเริ่มต้นใหม่

สื่อสังคมออนไลน์เปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้คนจัดการกับการเลิกรา:

  • การศึกษาโดย Pew Research Center ในปี 2020 พบว่า 52% ของวัยรุ่นและคนหนุ่มสาวใช้สื่อสังคมออนไลน์เพื่อตามดูความเคลื่อนไหวของคนรักเก่า
  • การศึกษาเดียวกันนี้เผยว่า 34% ของผู้ตอบแบบสอบถามโพสต์ข้อความเศร้าหรือคลุมเครือเพื่อสื่อสารทางอ้อมกับคนรักเก่า
  • ตามการศึกษาในปี 2019 ในวารสาร Cyberpsychology, Behavior, and Social Networking พบว่า 88% ของคนยังคงติดตามโปรไฟล์สื่อสังคมออนไลน์ของคนรักเก่าหลังจากเลิกรากันแล้ว

7. การผสานเทคโนโลยีแห่งรัก: นวัตกรรมแอปพลิเคชันหาคู่

แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์กำลังผนวกฟีเจอร์หาคู่เข้ามามากขึ้น:

  • Facebook Dating ที่เปิดตัวในปี 2019 มียอดจับคู่ถึง 1.5 พันล้านครั้งในปี 2021 ตามรายงานของบริษัท
  • การผสานรวม Instagram กับ Facebook Dating ทำให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มโพสต์ Instagram ลงในโปรไฟล์หาคู่ได้ ทำให้เส้นแบ่งระหว่างการเชื่อมต่อทางสังคมและการหาคู่ออนไลน์เลือนรางลง
  • การศึกษาโดย Pew Research Center ในปี 2021 พบว่า 30% ของผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ เคยใช้เว็บไซต์หรือแอปหาคู่ โดย 12% พบความสัมพันธ์ที่จริงจังหรือแต่งงานผ่านแพลตฟอร์มเหล่านี้

บทสรุป

สื่อสังคมออนไลน์ส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อภูมิทัศน์การออกเดทสมัยใหม่ ตั้งแต่วิธีที่เราพบคู่ที่มีแนวโน้มจะเป็นคนรัก ไปจนถึงวิธีที่เรารักษาและบางครั้งก็ยุติความสัมพันธ์ แม้ว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้จะเปิดโอกาสใหม่ๆ ในการเชื่อมต่อและแสดงออก แต่ก็นำมาซึ่งความท้าทาย เช่น ความหึงหวงที่เพิ่มขึ้น ความคาดหวังที่ไม่สมจริง และความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว

ในขณะที่สื่อสังคมออนไลน์ยังคงพัฒนาต่อไป บทบาทของมันในการออกเดทก็มีแนวโน้มที่จะสำคัญมากขึ้น การวิจัยในอนาคตในด้านจิตวิทยาไซเบอร์และสาขาที่เกี่ยวข้องจะมีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำความเข้าใจและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ สำหรับบุคคลและคู่รัก การตระหนักถึงอิทธิพลของสื่อสังคมออนไลน์ต่อความสัมพันธ์อาจนำไปสู่การใช้งานอย่างมีสติมากขึ้น และอาจส่งผลให้เกิดปฏิสัมพันธ์ทางความรักที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้นในยุคดิจิทัล


Like it? Share with your friends!

0

0 Comments

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

thไทย